เนื่องด้วยราคาที่ลดลงมาปีนี้เป็นอย่างมากนี้เอง จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่ต้องการจะซื้อคอนโดฯ เพื่ออยู่อาศัย แต่สำหรับนักลงทุน ทั้งแบบเก็งกำไรและปล่อยเช่า ต้องระวังในเรื่องของการหาผู้ซื้อหรือผู้เช่าต่อ เพราะสภาพคล่องในตลาดเหลือน้อย ทำให้โอกาสในการปล่อยห้องต่อในระยะเวลาสั้น ๆ นั้น ลดลงไปด้วย ผู้ลงทุนจึงจำเป็นต้องมีความพร้อมและความมั่นคงในเรื่องของสถานะทางการเงินพอสมควร

อสังหาฯประเภทถัดมา คือ กลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ หรือบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ รวมถึงตึกแถว ล้วนได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างแน่นอน แต่คงจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริง โดยเฉพาะตลาดทาวน์เฮ้าส์ในพื้นที่ไม่เกินแนววงแหวนรอบนอก และอยู่ในรัศมีของการเข้าถึงรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายได้ ยังมีความต้องการของผู้ซื้อสูงเมื่อเปรียบเทียบกับบ้านเดี่ยวที่ราคาขยับสูงขึ้นมากในระดับราคามากกว่า 7 – 10 ล้านบาท รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการที่จะอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมซึ่งมีข้อจำกัดของขนาดพื้นที่ที่เล็กลงมากและมีราคาแพงเกินไป สำหรับผลกระทบจาก COVID-19 นี้ น่าจะมีผลกระทบกับตลาด ทาวน์เฮ้าส์โดยรวมในทุกระดับราคา โดยคาดว่าในปี 2563 ยอดขายอยู่ที่ 20,026 ยูนิต ลดลง 8,673 ยูนิต (-30.2%) จากปี 2562 ที่มียอดขายทั้งหมด 28,699 ยูนิต ซึ่งราคาก็อาจจะปรับตัวลดลงได้เช่นเดียวกันกับคอนโดฯ แต่คงเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น อสังหาฯ กลุ่มนี้ จึงเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างน่าสนใจ ทั้งในมุมผู้ประกอบการ และมุมของนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ในพื้นที่ใกล้เมืองระดับราคา 3 – 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาสำหรับกลุ่มที่เป็นกำลังซื้อหลักในตลาด

เป็นอสังหาฯที่ลงทุนเพื่อประโยชน์ทางการค้ามากกว่าการจะเป็นที่อยู่อาศัย เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม ร้านอาหาร โรงพยาบาล เป็นต้น สำหรับประเทศไทยเอง อสังหาฯ กลุ่มนี้ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกลุ่มอาคารสำนักงาน ซึ่งในช่วงแรกของปี 2562 มีปริมาณการใช้พื้นที่สำนักงานในกรุงเทพฯ ทั้งสิ้น 1.4 แสนตารางเมตร (ตร.ม.) และคาดว่าปริมาณการใช้พื้นที่สำนักงานโดยรวมจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ 2 แสนตารางเมตร ภายในปีนี้ ในขณะที่ อสังหาฯ กลุ่มอื่น ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรม ถึงแม้จะชะลอตัวไปบ้าง แต่ก็เป็นตลาดที่มีความแข็งแกร่งและสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

อสังหาฯเชิงพาณิชย์จึงยังคงน่าสนใจสำหรับการลงทุนไม่น้อย โดยมีปัจจัยที่มาสนับสนุนอย่างเรื่องของ Agile Workplace ที่เป็นเทรนด์ใหม่ โดยมีมุมมองว่าคนเราไม่จำเป็นต้องทำงานอยู่ในออฟฟิศขนาดใหญ่ และสถานที่เดิมตลอดเวลา Co-working space จึงกลายเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การทำงานในยุคปัจจุบันมากขึ้น แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ก็ทำให้อสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน เช่น กลุ่มอาคารสำนักงาน ที่หลาย ๆ บริษัทมีนโยบายให้ Work from home มากขึ้น ซึ่งหากการระบาดของไวรัสครั้งนี้กินเวลานานจนนโยบายนี้กลายเป็นนโยบายระยะยาว ความต้องการของอาคารสำนักงานก็อาจลดลงได้ในอนาคต แต่ถ้าการระบาดสามารถควบคุมได้เร็ว เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวกลับมา ความต้องการก็อาจจะกลับมาอีกครั้ง จึงเป็นที่น่ากังวลว่า อสังหาฯ กลุ่มนี้ จะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างที่เคยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าวิกฤติครั้งนี้จะกินเวลานานแค่ไหนกว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป

และนี่ก็คือสถานการณ์ของตลาดอสังหาฯในปัจจุบัน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมาย จนมาถึงวิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ตลาดอสังหาฯทุกประเภทเริ่มชะลอตัวลง รวมถึงราคาก็เริ่มปรับลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจ เรียกได้ว่าเป็นการปรับฐานครั้งใหญ่สำหรับอสังหาฯ เลยทีเดียว นักลงทุนจึงจำเป็นต้องระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น และคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีที่จะเริ่มตัดสินใจเข้ามาลงทุนในตลาดนี้

สำหรับคนที่อยากเริ่มลงทุนในอสังหาฯ แต่ติดข้อจำกัดสำคัญของการลงทุน นั่นก็คือ การที่จะต้องใช้เงินลงทุนที่สูง รวมถึงต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ในการลงทุนพอสมควร ทำให้ไม่สามารถเข้ามาลงทุนได้ เราสามารถใช้ตัวช่วยการลงทุนอย่างกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT (Real Estate Investment Trust) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีกองทุนที่น่าสนใจมากมายหลากหลายกองทุนให้เลือก เช่น กองทุน KFGPROP-A, PRINCIPAL IPROP-A, PRINCIPAL IPROPEN-A, MN-APREIT-A เป็นต้น โดยนอกจากจะใช้เงินทุนไม่มากแล้ว ยังมีผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์คอยดูแลและติดตามการลงทุนให้กับเราอีกด้วย สุดท้ายไม่ว่าคุณจะตัดสินใจลงทุนในอสังหาฯก็ดี หรือลงทุนผ่านตัวช่วยอย่างกองทุนรวมก็ดี ในเมื่อเป็นเรื่องของการลงทุน ก็ย่อมหลีกเลี่ยงความเสี่ยงไม่ได้ เราในฐานะผู้ลงทุนก็ควรทำความเข้าใจในลักษณะสินค้าและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งนะครับ

ข้อมูลจาก เว็บธนาคารกรุงศรี

Compare listings

Compare